วิธีการทำอาหาร แกงฮังเลอาหารภาคเหนือ อร่อยดีต้องรีวิว

วิธีการอาหาร

 

แกงฮังเลอาหารภาคเหนือ แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล เป็นอาหารไทยประเภทแกงรสชาติเค็ม-เปรี้ยว แกงฮังเลมีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า โดยคำว่า ฮี่น (ဟင်း) ในภาษาพม่าแปลว่า แกง และ เล่ (လေး) ในภาษาพม่าแปลว่า เนื้อสัตว์ และ “แกงฮังเล” ภาษาอังกฤษ คือ Kaeng Hang Lay (Northern Style Hang Lay Curry)

 

ชื่ออื่น แกงฮี่นเล่ แหล่งกำเนิด ไทย พม่า ภูมิภาค ภาคเหนือของไทย พม่า และสิบสองปันนาในจีน ส่วนผสมหลัก แกงใส่เนื้อสัตว์ เครื่องเทศ รูปแบบอื่น แบบพม่า แบบเชียงแสน แบบไทใหญ่  พลังงาน (ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) 540 กิโลแคลอรี (2261 กิโลจูล)

 

แกงฮังเลได้รับความนิยมจากชาวไทยภาคเหนือและแคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีนวิธีปรุงแกงฮังเลมีสองแบบคือแบบพม่าและแบบเชียงแสน โดยแบบพม่าได้รับความนิยมมากกว่า แกงฮังเลพม่ารสชาติออกเปรี้ยวเค็ม น้ำขลุกขลิก ใส่ขิง น้ำมะขามเปียก กระเทียมดอง ถั่วลิสง น้ำตาลอ้อย ส่วนแกงฮังเลเชียงแสนเพิ่มถั่วฝักยาว พริก หน่อไม้ดอง งาคั่ว

 

ส่วนประกอบสำคัญจะต้องมีผงแกงฮังเลหรือผงมัสล่าซึ่งเป็นผงเครื่องเทศแบบผสมแบบเดียวกับการัม มาซาลาของอินเดีย น้ำพริกแกงประกอบด้วยพริกแห้ง เกลือ ข่าแก่ ตะไคร้ กระเทียม หอมแดงแกงฮังเลแบบไทใหญ่ น้ำขลุกขลิกและกินกับมะม่วงสะนาบซึ่งเป็นมะม่วงสับ ยำกับกะปิคั่ว กุ้งแห้งป่น และกระเทียมเจียว

 

แกงฮังเลมีสองแบบ คือ แกงฮังเลม่าน มีลักษณะเป็นแกงที่มีสีน้ำตาลแดง น้ำแกงขลุกขลิก มีน้ำมันลอยหน้าสีแดงส้มจากเครื่องแกง เนื้อสัมผัสของหมูเปื่อยนุ่ม รสเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ด แกงฮังเลอีกชนิดคือ แกงฮังเลเชียงแสน มีการนำผักพื้นบ้านตามฤดูกาลมาเพิ่มในส่วนผสม เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือยาว มะเขือพวง พริก ผักชีฝรั่ง ใบชะพลู และหน่อไม้ดอง

 

มีลักษณะคล้ายกับแกงโฮะ แต่แกงฮังเลเชียงแสนไม่มีวุ้นเส้นเป็นส่วนผสม มีส่วนของน้ำแกงเล็กน้อย สีของแกงออก สีเหลืองเขียวจากส่วนผสมของผัก

 

แกงฮังเลนั้น จริง ๆ แล้ว มี 2 แบบ คือ แบบพม่า และแบบเชียงแสน

1.แกงฮังเลแบบพม่า มีรสชาติออกเปรี้ยว เค็ม น้ำขลุกขลิก ใส่ขิง น้ำมะขามเปียก กระเทียมดอง ถั่วลิสง น้ำตาลอ้อย และ สูตรนี้ เป็นที่นิยมมากกว่า แกงฮังเลแบบเชียงแสน

2.แกงฮังเลเชียงแสน จะเพิ่มถั่วฝักยาว พริก หน่อไม้ดอง งาคั่ว

 

 

วิธีการทำอาหาร  แกงฮังเลอาหารภาคเหนือ สูตรวิธีทำ แกงฮังเล

แกงฮังเล เมนูอาหารเหนือ ยอดนิยม ได้รับอิทธิพลจากพม่า และไทยใหญ่ เป็นแกงน้ำขลุกขลิก ค่อนข้างมีไขมัน แต่ใส่สับปะรด และน้ำมะขามเปียก ช่วยลดความรู้สึกเลี่ยนมันของหมูสามชั้น และช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร มีขิง ช่วยเพิ่มรสชาติ ขับลม และย่อยง่ายด้วย อร่อย ทำไม่ยากอย่างที่คิด

ส่วนผสม

 

ส่วนผสมเครื่องแกง

 

 

วิธีทำแกงฮังเลทำอย่างไร

 

  1. หั่นเนื้อหมูสันคอ และหมูสามชั้น เป็นชิ้นขนาดพอดี เตรียมไว้
  2. โขลกเครื่องแกง พริกแห้ง พริกขี้หนูแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ข่า เกลือ และกะปิ รวมกันให้ละเอียด
  3. ผสมเครื่องแกงที่เตรียมไว้ ใส่ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้า ให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
  4. เตรียมกระทะ หรือหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย นำหมูที่หมักไว้ ผัดจนกว่าหมูตึงตัว เคี่ยวต่อ คอยเติมน้ำเรื่อย ๆ จนหมูนิ่มได้ที่
  5. ใส่น้ำอ้อยป่น น้ำมะขามเปียก ใส่กระเทียม และขิงซอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อจนได้ที่ จากนั้น ใส่ถั่วลิสงคั่ว พอเดือดสักพัก ปิดไฟ
  6. นำแกงฮังเล ตักใส่จาน เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวเหนียว อร่อยสุด ๆ

 

เคล็ดลับการทำแกงฮังเล ให้อร่อย การคั่วเครื่องแกง ให้ใช้ไฟปานกลาง สามารถใช้เนื้อกระท้อน แทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม คล้าย ๆ กัน

หมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป หรือใช้ซี่โครงหมู เนื้อสันคอหมู หรือเนื้อหมูสันนอก แทนหมูสามชั้นก็ได้ บางคนไม่ชอบทานหมู เปลี่ยนเป็นเนื้อไก่ ก็นิ่ม อร่อย รสจัดจ้านเช่นกัน

 

คุณค่าทางโภชนาการ
แกงฮังเลนั้น มีพลังงานจากเนื้อหมู มันหมู ช่วยให้ความอบอุ่น เหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน วิตามินบี2 วิตามินซี จากส่วนผสมอื่น ๆ อีกด้วย

 

บอกเลยว่า สูตรแกงฮังเล ที่เรานำมาฝากนี้ เรียกได้ว่า อาหารเหนือส่วนใหญ่ จะอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แกงฮังเลอาหารภาคเหนือ และอาหารแทบจะทุกชนิด จะมีสมุนไพรเป็นส่วนผสม เพราะภาคเหนือ จะมีอากาศหนาวเย็น และเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ

 

สามารถช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้นได้นั่นเอง รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำสูตร แกงฮังเล ที่เรามาแชร์นี้ ไปลองทำกันได้นะจ๊ะ อร่อยจนวางช้อนไม่ลงแน่นอน คอนเฟิร์ม!!จ้า